-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สงครามเย็นเป็นภาวะอย่างหนึ่งที่ประเทศมหาอำนาจทั้ง 2 ฝ่ายต่างแข่งขันกัน โดยพยายามสร้างแสนยานุภาพทางการทหารของตนไว้ข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม โดยประเทศมหาอำนาจจะไม่ทำสงครามกันโดยตรง แต่จะสนับสนุนให้ประเทศพันธมิตรของตนเข้าทำสงครามแทน หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสงครามตัวแทน (Proxy War) เหตุที่เรียก สงครามเย็น เนื่องจากเป็นการต่อสู้กันระหว่างมหาอำนาจ โดยใช้จิตวิทยา ไม่ได้นำพาไปสู่การต่อสู้ด้วยกำลังทหารโดยตรงอย่าง สงครามร้อน[ต้องการอ้างอิง]
การกำเนิดค่ายตะวันออก[แก้]
ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 สหภาพโซเวียตได้ก่อตั้งค่ายตะวันออก (Eastern Bloc) โดยการรวมรัฐที่ได้ยึดมาจากฝ่ายนาซี เช่น โปแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ฟินแลนด์ เอสโตเนีย โรมาเนีย แล้วจึงเปลี่ยนสถานะให้เป็นรัฐสังคมนิยมซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต
ลำดับเหตุการณ์[แก้]
นโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในช่วงเวลาดังกล่าว คำนึงถึงสงครามเย็นเป็นหลัก นับจากปี ค.ศ. 1947 (พ.ศ. 2490) จนกระทั่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ใน ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) สมัยเริ่มต้นสงครามเย็น น่าจะอยู่ในสมัยวิกฤตการณ์ทางการทูตในตอนกลางและปลาย ค.ศ. 1947 เมื่อสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตเกิดขัดแย้งเรื่องการจัดตั้งองค์การสันติภาพในตุรกี ยุโรปตะวันออกและเยอรมนี
ความตึงเครียดเนื่องจากการเผชิญหน้ากันระหว่างอภิมหาอำนาจ แต่ยังไม่มีการประกาศสงครามหรือใช้กำลัง เป็นสมัยลัทธิทรูแมน วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1947 กับประกาศแผนการมาร์แชลล์ เพื่อฟื้นฟูบูรณะยุโรปตะวันตก ซึ่งได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง การขยายอิทธิพลของโซเวียตในยุโรปตะวันออก และการแบ่งแยกเยอรมนี
การวิจัยและพัฒนาโครงการทางการทหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมาก เกิดขึ้นในในช่วงเวลานี้ รวมถึงการแข่งขันกันสำรวจอวกาศ และการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ด้วย ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อแสดงแสนยานุภาพของฝ่ายตน
ช่วงเวลาของเหตุการณ์[แก้]
- เริ่มต้นของสงครามเย็น(ค.ศ. 1947-1950) เป็นช่วงแรกของสงครามเย็นจากการที่สหภาพโซเวียตกำเนิดค่ายตะวันออกและสหรัฐอเมริกาคิดเกี่ยวกับทฤษฎีโดมิโนลัทธิทรูแมน แผนการมาร์แชลล์ และการระวังภัยจากลักธิคอมมิวนิสต์
- วิกฤตการณ์(ค.ศ. 1950-1975) เป็นช่วงที่เกิดการขัดแย้งและการเผชิญหน้ากันรุนแรงที่สุดในสงครามเย็น ทั้ง สงครามเกาหลี (ค.ศ. 1950-1953) การสร้างกำแพงเบอร์ลิน(ค.ศ.1961)วิกฤตการณ์ขีปนาวุธที่คิวบา (ค.ศ. 1962) สงครามเวียดนาม (ค.ศ. 1957-1975)
- การผ่อนคลายครั้งแรก(ค.ศ. 1974-1979) สนธิสัญญาควบคุมอาวุธ SALT I(ค.ศ. 1974) และ SALT II(ค.ศ.1979)
- วิกฤตการณ์ครั้งที่สอง(ค.ศ. 1979-1989) เป็นช่วงที่เกิดการขัดแย้งอีกครั้งในสงครามอัฟกานิสถาน(ค.ศ. 1979-1989)
- การผ่อนคลายครั้งสองและสิ้นสุดสงครามเย็น (ค.ศ. 1985-1991) เป็นช่วงปลายสงครามเย็น สนธิสัญญาควบคุมขีปนาวุธ INF กลัสนอสต์และเปเรสตรอยคาของสหภาพโซเวียต และ การล่มสลายของสหภาพโซเวียต
คู่สงคราม[แก้]
เริ่มต้นของสงครามเย็น ค.ศ. 1947-1953มีประเทศพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาหลักๆคือ สมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือมีประเทศพันธมิตรของโซเวียตหลักๆคือสมาชิกสนธิสัญญาวอร์ซอและสาธารณรัฐประชาชนจีน
ค.ศ.1950 ได้เกิดสงครามเกาหลี สหรัฐอเมริกาได้ช่วยเหลือเกาหลีใต้ส่วนโซเวียตได้ช่วยเหลือเกาหลีเหนือ จนกระทั่งสงบศึกหลังจากเวียดมินห์ได้รับชัยชนะ ฝรั่งเศสยอมรับความปราชัยและต้องสงบศึก ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการลงนามใน “อนุสัญญาเจนีวา พ.ศ. 2497” ที่นครเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีผลให้เวียดนามถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ โดยมีเส้นขนานที่ 17 องศาเหนือเป็นเส้นแบ่งเขตเวียดนามเหนือ ยึดถือการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของโฮจิมินห์ และ เวียดนามใต้ยึดถือการปกครองแบบประชาธิปไตย ภายใต้การนำของโง ดินห์ เสี่ยม ทำให้ สหภาพโซเวียตเข้าควบคุมเวียดนามเหนือ สหรํฐอเมริกาเข้าควบคุม เวียดนามใต้ ในตะวันออกกลางอเมริกาได้สนับสนุนอิสราเอลในเรื่องอาวุธที่ไว้ใช้ป้องกันตัวเอง ทำให้โซเวียตตอบโต้โดยสนับสนุนสันนิบาตอาหรับในต่อต้านอิสราเอล
ในปีค.ศ.1959 ได้มีการปฏิวัติคิวบาและได้เข้าเป็นพันธมิตรของโซเวียต ในปีค.ศ.1960 สาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีความคิดคัดแย้งกันทำให้สาธารณรัฐประชาชนจีน กลุ่มเขมรแดง และโซมาเลีย แยกออกมาจากพันธมิตรของโซเวียต หลังจากสงครามยมคิปปูร์ และ เวียดนาม เวียดนามได้เข้าเป็นพันธมิตรของโซเวียต ส่วนสันนิบาตอาหรับตัดความสัมพันธ์จากโซเวียตไปเป็นพันธมิตรของอเมริกา
ในปีค.ศ.1979 เกิดสงครามอัฟกานิสถานที่เป็นพันธมิตรของโซเวียตได้ต่อสู้กับ มุจญาฮิดีนซุนนีย์ที่อเมริกาสนับสนุนในที่สุดมุจญาฮิดีนซุนนีย์ได้รับชัยชนะทำให้โซเวียตเสียพันธมิตรไป ในค.ศ.1989ได้มีการเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยในกลุ่มสนธิสัญญาวอร์ซอ ทำให้โซเวียตเสียพันธมิตรในกลุ่มสนธิสัญญาวอร์ซอ ทำให้รัฐในโซเวียตเรียกร้องอิสรภาพส่งผลให้สหภาพโซเวียตล้มสลายในเวลาต่อมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น